วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อาหารที่พอกินได้กับหนามด่างมหากาฬ

อาหารถ้าอร่อยเลย
กินต่อๆ กันไปทุกวัน
ไม่เร็วก็จะเบื่อ

ถ้าเป็นอาหารที่ไม่อร่อย ถ้าสามารถทำให้อร่อยขึ้น
ทีละเล็กทีละน้อยไปเรื่อยๆ น่าจะกินได้นานขึ้น กว่าอาหารที่อร่อยเลย

และยิ่งถ้าได้อาหารที่ "พอกินได้" ล่ะ
เกือบอร่อย แล้วค่อยๆพัฒนาให้อร่อยไปเรื่อยๆ
น่าจะเป็น choice เลือก
ที่ดีที่สุด

อาทิตย์นี้ผมได้ไม้หนามมาตัวนึง
จะเรียกว่า Dyckia ในฝันเลยก็ว่าได้
ซึ่งถ้าเป็นคนเล่นหนาม
น่าจะอยากได้กันทุกคนและจำเป็นต้องมีนะผมว่าเป็นไม้ตัวนึงที่ยั่วกิเลสได้สุดๆ


เป็นหนึ่งในสุดยอดของ Dyckia ตัวนึง
ที่ยังหาตัวมาเทียบเทียมได้ยากในเรื่องของความด่าง

Dyc. Dakota ครับ

เมื่อก่อนราคาน่าจะเหยียบแสน
ตอนนี้ราคาเริ่มลงมาที่ 5 หลักจนถึง 4 หลักตามความงาม
อยากได้มานาน แต่ราคาเกินเอื้อมจริงๆ ครับ
ตอนนี้ราคาพอจับต้องได้จึงฉวยโอกาสเอามาครอบครอง

แค่รูปของเจ้านี่ในเมล์ก่อนที่ไม้จะมาถึงก็ทำให้ผม
ร้อนรนอยากจะป่ะหน้าและครอบครองตัวเป็นๆ เจ้านี่เต็มที


จริงๆ ได้ไปเห็นและสัมผัสกับตัวเป็นๆ ของเจ้านี่มาทีละ
ที่เชียงใหม่เมื่อปีหรือสองปีก่อน ตอนนี้เราจะได้แนบสนิทกัน
แบบวันต่อวันอย่างใกล้ชิดในทุกเช้าก่อนไปทำงาน และในตอนเย็นๆ
ก่อนตะวันจะลับขอบฟ้า และบางเวลาในวันหยุดพักผ่อนสบายๆ

ลงทุนไปรับถึง ปณ.
กลัวน้องมันจะกระทบกระเทือนกับการขนส่ง
ก่อนถึงจุดหมาย


เปิดกล่องมา feel good มันรู้สึกดีจริงๆ ครับ

ปลอดภัย แทบจะไม่เห็นมีการกระทบกระเทือน
เพราะเจ้าของเดิมหีบห่อมาค่อนข้างเซฟพอสมควรมัดกระถางเจ้าตัวนี้ติดมาในกล่อง

ตัวนี้ขอเค้าส่งให้ทั้งกระถางเพราะเห็นเป็นของแพง
ใจชื้นอีกหน่อยเมื่อสังเกตเห็นว่าไม้มีรากใหม่ๆ ขาวๆ แล้ว

ซึ่งก็ช่วยให้หายห่วงและเบาใจไปหน่อยกับการยื้อชีวิต
ไม้ตัวนี้ให้อยู่รอดปลอดภัย

ตัวนี้ขอปลูกกระถางดินเผาครับ
หนักกว่าพลาสติก แต่ก็น่าจะดูมีเสนห์ดี

และขอเป็นกระถางแบบที่ใหญ่กว่าไม้
ข้อดีอีกอย่างของกระถางแบบนี้ ป้องกันชั้นใบถูกกระทบกระเทือน
จากการเกี่ยวแข้งเกี่ยวขาเวลาเดินผ่านโดยไม่ตั้งใจได้ดี เพราะมีขอบกระถางช่วยกันไว้

ลองเทียบกันก็ดีโอเคดีนะ จริงๆ กะว่าไม้มาถึงกะจะพักไม้
ไว้กับกระถางเดิมก่อน แต่อารมณ์พาไปครับ
อยากเปลี่ยน

กับวัสดุรองก้นกระถางกันดินร่วง

แต่ดูก้นกระถางมีแค่รูเดียว เหมือนจะน้อยไปหน่อย
แต่ก็ลองดู

เน้นผสมหินภูเขาไฟลงไปให้มากหน่อย

รากที่ติดมากับต้นทั้งหมด

เห็นมีรากยาวๆ บางเส้นยังขาวๆ เหมือนจะเป็นรากใหม่
ดีเลยครับ คงฟื้นตัวได้ในเร็ววัน

ค่อยๆ บรรจงกลบดิน

ที่ละนิดอย่างแผ่วเบา ไม่ต้องกลบดินจนล้นพูนกระถาง

เผื่อที่ไว้สำหรับโรยหินปิดหน้า เพื่อความสวยงามและกันดินกระเด็นตอนรดน้ำ



และก็มักจะเจอว่าปลายใบมักจะจมอยู่ในวัสดุปลูกแบบนี้
แต่ก็สามารถปล่อยไว้ได้ รอไม้อยู่ตัวหน่อยค่อยงัดขึ้นก็ได้ครับ

เรียบร้อย

Dyckia ตัวนี้ดูเหมือนด่างจะไม่รอบ 360 องศา
ดูซีกนี้ค่อนข้างสวยงาม

ส่วนอีกซีกดูจะขาดๆ ไปบ้าง นี่แหละทีผมว่าเจ้านี่
ไม่ใช่อาหารที่อร่อย ซึ่งก็ไม่ได้ดูแย่ แต่เป็นอาหารที่พอกินได้
ซึ่งวันหนึ่งอาจจะกลายเป็นอาหารอร่อยขึ้นมาได้

ซึ่งถ้าลองมาเล็งๆ ดูส่วนยอดดีๆ เหมือนกับว่าในส่วนยอดจะด่างครบ 360 องศา
รอแค่ให้มันค่อยๆ โตเพื่อมาแทนที่ใบเก่าๆ ในรอบนอกที่ไม่ด่าง
ค่อยๆ เป็นอาหารที่พัฒนารสชาดขึ้นทีละนิด
เอาไว้ลุ้นเล่นๆ

เพิ่มอรรถรสในการเล่นหนาม

ซึ่งการเล่นไม้แบบนี้น่าจะมีความสนุกและท้าทายกว่าการ
ได้มาชนิดที่สมบูรณ์แบบ



สำหรับหนามตัวนี้แล้ว
เราคงต้องอยู่เพื่อศึกษาจริตกันไปอีกสักพัก





เพราะอยากจะเล่นเรื่องแสงกับสีกับเจ้าตัวนี้
เพราะบางทีจะเห็นมันสีเหลืองสวยๆ สลับการขอบเขียว บางทีก็เห็นเป็นสีส้มๆ
เดี๋ยวไว้ไม้มีพัฒนาการยังไง อีกสักพักไว้จะเอามาให้ชมใหม่นะครับ

สวัสดีครับ


วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

จงสยายปีก แล้วโบยบินไปสู่คุ้งมหาสมุทรอันกว้างใหญ่

ต้องอยู่อย่างอัปยศอดสู่มานาน
วันนี้ถึงเวลาละที่จะต้องกลับมา "ผยอง" 
ยืนหยัดอยู่อย่างผึ่งผาย
สง่างามให้เป็นตำนานเล่าขานไปอีกยาวนาน

เอสเต้เวซิอาย !!!!!


ไงล่ะหัวกระทู้แบบเวอร์ๆ ไม่มีอะไรครับเห็น
เจ้า Dyc. estevesii ก้มๆ เงยๆ คุ้ดคู้อยู่มานาน
เห็นแล้วรู้สึกมันจะหมดอนาคตยังไงไม่รู้
ประกอบกับก้นกระถางดูจะเล็กไปไม่เหมาะ
ที่จะเป็นฐานรากรองรับสภาวะ After Shock 
ที่มีมาเป็นระรอกๆ แถวๆ บ้านอยู่บ่อยๆ
เลยกะจะเปลี่ยนกระถางให้สักหน่อย
พร้อมกับทำให้ลำตัวมันตั้งตรงขึ้น

แต่การโน้มเข้าหาแรงดึงดูดของโลกของเจ้านี่
น่าจะเป็นด้วยธรรมชาติกำหนดมา
ไม่น่าจะเกิดจากเหตุผลที่ว่า
อยากกระโดดออกนอกกระถาง
เหมือนกุ้งเต้นที่โดนพริกมะนาวในจาน
แล้วมาเต้นกรุบๆๆ อยู่ในปากเรา


ผมเดาว่าหนึ่งในสาเหตุของการงุ้ม
ก้มหน้าลงดินน่าจะเกิดจากหน่อ
เพราะเท่าที่สังเกตดูเจ้าตัวนี้จะมีหน่อออกบริเวณด้านข้าง
หรือด้านหลัง  เลยทำให้ส่วนของด้านหน้ามีการกดลงเรื่อยๆ
ซึ่งไอ้เราก็ว่าตอนปลูกพยายามตั้งมันลงแล้วนะ
แต่มันก็งุ้มได้งุ้มดี

Dyckia ตัวนี้ถูกเลี้ยงมาน่าจะได้สัก 2 ปีกว่าๆ ละ
ซึ่งราคาตอนได้มาเรียกว่ามาแรงพอสมควร
กับความแปลกของหนามในรูปแบบ fan shape
ขนาดตอนนี้เรียกได้ว่าสวยและสง่างาม
เรียกได้ว่าฝรั่งเห็นแล้วชอบกันทุกคน
ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน Size ขนาดนี้
ราคาน่าจะแรงมาก
ซึ่งช่วงหลังมีการโคลนนิ่งทำให้จับต้องกันได้ง่ายขึ้น

ด้วยความที่ไม้อยู่ในกระถางดิน จริงๆ กะจะเซฟกระถางเอาไปปลุกไม้อื่นๆ
พยายามใช้ช้อนปลูกงัดๆ แงะๆ ดูเหมือนจะได้ละ แต่งัดไปงัดมา
ครึบๆ ไม่มีศึกสงครามครั้งไหนที่ไม่มีการสูญเสีย

สภาพก็ลงเอยอย่างที่เห็น เสียดาย

นี่แหละครับ เจ้าก้อนที่ออกมาจากกระถางแตกๆ อย่างยากเย็น
ที่อุตสาห์พยายามเซฟสุดๆ เพื่อรักษากระถาง และป้องกันการฉีกหักของ
หนวดกุ้งแบบสุดๆ จะได้ไร้มลทิน  เรียกได้ว่ารากแน่นกระถางเกาะกันเป็นก้อน

 มีอาการลังเลเล็กน้อย

 กับการเลือกกระถางระหว่างกระถางปากกว้าง

กับกระถางทรงสูง

ลองสลับไปสลับมาหลายรอบด้วยความลังเล

เอาเป็นว่าลองกันจนเมื่อยแขน ทั้งกระถางแบบเล็กและใหญ่

ก่อนปลูกใหม่ทุกครับผมตัดส่วนของใบเสียๆ ออกด้วย
บางทีได้มาเป็นกองๆ และลดการเกี่ยวมือได้ดีเวลาปลูก

เกือบลืม ก่อนปลูกใหม่ ถอดหน่อมาได้ 4 หน่อ
แต่ละหน่อขนาดไม่ธรรมดา

แนะนำนะครับหนามตัวนี้ควรแคะหน่อตอนมีรากแล้ว
เพราะเคยแคะมาหน่อใหญ่มาก แต่ยังไม่มีราก
รากเดินช้ามาก และยากพอสมควร
จนในที่สุดก็แห้งตายไป เสียดายมาก

ลองดูขนาดของหน่อนะครับ เทียบได้กับกุ้งตัวเป้งๆ หน่อแรกใหญ่สุด

ลักษณะการเดินของราก

หน่อสอง หน้าตาดีสุด



หน่อที่สามเป็นหน่อที่อยู่ล่างสุด

ถูกกดทับโดยหน่อบนส่วนด้านข้างอีกด้านถูกกดลงดิน
สังเกตผิวที่ถูกสัมผัสกับดินกระตุ้นให้เกิดเป็นรากขึ้นมา

ส่วนหน่อสุดท้ายเล็กกว่าใครเพื่อน แต่รากก็มาแล้ว

สนใจหน่อไหนติดต่อมาได้ครับที่ dyckiaplayground@hotmail.com
จากซ้ายไปขวา
หน่อแรก 1,200 บาท
หน่อสอง  1,000 บาท
หน่อสาม  800 บาท
หน่อสี่ 600 บาท

 หน่อแรก

 หน่อสอง

หน่อสาม

 หน่อ 4

แผลน้อย มีราก ทุกตัวเลยโดนปลูกหลังแยกเสร็จ

กะว่าจะให้บอบช้ำน้อยที่สุด
แต่ก็ไม่วายหลุดมือจนหนวดใหม่ๆ หักและช้ำ ฮึมๆๆๆ


สภาพหลังเปลี่ยนกระถางเสร็จ
บทสรุปได้กระถางปากกว้างแบบนี่ล่ะครับ
ดูดีขึ้นไม๊นี่


เทียบให้ดูความใหญ่ๆ อีกที
ไม่รู้ว่าจะใหญ่ได้ขนาดไหน



R U - O K

สวัสดีครับ