วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

หนามนี้มีเชื้อ


ถ้าหากเคยอ่านในกระทู้

มาก่อน

ตอนนี้ผมจะบอกว่่า ไอ้ที่เห็นเป็นเส้น เขียวๆ
บนใบเจ้า Yellow Glow น่ะ
ที่ผมกะเอามาดูว่าเส้น var (variegated)
มันจะมีพัฒนาการไปเป็นยังไง

ตอนนี้พอได้ความว่ามันพลัดใบไปเรื่อยๆ
จนถึงตอนนี้เจ้าเส้น var ก็หายหน้าหายตากันไป
เหลือแม่ใหญ่เป้ง เหลืองๆ ซะอย่างเดียว
ไปซะแล้ว บางต้นแค่พลัดใบ

แต่เจ้าต้นนี้นี่ซิ
เล่นพลัดไปทั้งชีวิต
เหตุก็เกิดจากมีใบแตกร่วมด้วย
รวมถึงมีแมงโบ้งมาแอบแง่มๆ ตอนไม่ทันสังเกต กินกันซะอ้วนเชียว
แต่ก็ให้ลูกมาจำนวนหนึ่งพอมาต่อทุนได้

ส่วนเจ้านี้ก็แม่โทรมลงเรื่อยๆ แต่ลูกตรึม

บางหน่อดันออกมาแม้กระทั่งในกลีบด้านในใกล้ๆ
กับส่วนยอดของหน่อแม่

ลองส่องๆ ก็ออกแปลกๆ หน่อย

กอนี้เจ้าหน่อลูกดันโผล่เส้น var
เกือบแทบทุกหน่อทั้งใหญ่บ้าง น้อยบ้าง

ความรู้สึกตอนนี้จริงๆ ก็เฉยๆ ไปแล้วนะครับ

แต่หน่อนี้ดูน่านำมาเล่นต่ออีกรอบ
เพราะเส้นดูใหญ่น่าสนใจดี

ถ้าผมไม่ขี้เกียจไปกว่านี้
จะแคะหน่อ
มาลองลุ้น
อีกซักตั้ง

เผื่อจะมีอะไรสนุกๆ รึจะเหมือนเดิม


วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

The Manual

จริงๆ ถ้าคิดจะสะสม Brome ก็ซื้อเก็บๆ เลือกที่สวยๆ และชอบ
ก็น่าจะจบนะ ว่าไหมครับ
แต่ถ้าจะให้ลึกอีกหน่อย ถึงขนาดพอรู้ที่มาที่ไป
แต่ก็ไม่ให้ต้องถึงขนาดว่าต้องเป็น กูรู
ก็น่าจะเพิ่มรสชาติให้การสะสมเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย

เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ในขณะที่ผมมี Brome อยู่ไม่ถึง 10 ต้น
นับคร่าวๆ เท่าที่จำได้ก็มีเจ้า Neo. Fire Ball อยู่ประมาณ 2 กระถาง
ซึ่งก็แปลกที่มันเลี้ยงง่าย สีก็สวย และแถมยังสามารถแตกหน่อขยายพันธุ์ได้เรื่อยๆ
แถมสีสันยังออกไปทางฉูดฉาดแถมสวยด้วย
ซึ่งก็ถือว่าเป็น Neo. ขนาดเล็กๆ ซึ่งถ้าเลี้ยงได้เป็นกอใหญ่ๆ ก็จะสวยไม่หยอก
ก็ตัดแยกและขยายพันธุ์ได้เรื่อยๆ เลี้ยงง่ายอีกต่างหาก
ไปเดินแถวตลาดต้นไม้ก็ไปเจอกัีบ Neo. Black Olive
เห็นตอนแรกก็ชอบนะ และก็ยังมีขนาด
ใหญ่โตกว่าเจ้า Fire Ball ที่ผมมีอยู่
ติดก็ตรงที่ราคาคือแพงไปหน่อย
สำหรับผมในตอนนั้น
300 นี่ถือว่าแพงแล้วนะ
ในชีวิตยังไม่เคยได้ซื้อไ้ม้แพงขนาดนี้เลย
แต่ก็คิดว่าชอบเลยลงตัดใจซื้อมา
ซื้อมาก็นั่งดูอยู่ทุกวัน ยิ่งดูก็ยิ่งชอบนะ
และขนาดมันก็ใหญ่โตอลังกาลขึ้นเรื่อยๆ
แล้วก็ไปได้ต้นที่สองเจ้า Black Forest มาเพิ่มอีกตัว
สำหรับการได้มารู้จักไม้ตัวนี้สำหรับผมแล้ว
มันเหมือนกับการได้รับสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาในชีวิตอีกหนึ่งอย่าง
ที่ออกจะค่อนข้างแปลกใหม่ 
เพราะปกติเป็นคนไม่ชอบพอกับการเลี้ยงไม้สักเท่าไหร่
และที่สำคัญไม้พวกนี้มีความหลากหลายค่อนข้างมากเสียด้วย
มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะจับจุดไม่ได้เลยในตอนนั้น
เหมือนกับกำลังคลำหาอะไรในที่มืดๆ
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหา
อะไรก็ได้ที่พอจะเป็น
แสงให้เราพอ
เห็นในสิ่ง
ที่กำลังคลำหาอยู่

มาเจอเจ้่านี่แหละครับ

สิ่งเดียวที่จะทำให้คนที่มี Bromeliad อยู่ไม่ถึงสิบ
สามารถมีไม้ครบทุกแบบทุกสายพันธุ์รวมกัน
อยู่ในหนังสือเล่มนี้
555

นี่แหละครับที่่ผมเรียก The Manual
ผมยึดตัวนี้เลยนะในการหาไม้มาไว้เก็บ
เพราะไม้ทุกตัวที่ผมได้ยินชื่อผมจะลองมาหาดูหน้าตาในนี้ก่อน
แต่ก็ไม่ทุกตัวนะที่จะหาเจอในเล่มนี้

หนังสือเล่มนี้
แต่งโดย
คุณอภิรักษ์  กลั่นแก้ว 

ซึ่งดูผมจะติดเรียกพี่เค้าว่า
AK มากกว่า

ถามว่าแพงไหม
ตอบว่าแพงครับ สำหรับผมนะ
แต่คุ้มครับ

ผมว่าความแพงค่อนไปอยู่ที่
ราคากระดาษครับ เพราะใช้กระดาษอย่างดีพิมพ์ุ้สี่สี
แต่หรับเนื้อหาต้องบอกว่าเหมือนความรู้ที่ถ่ายทอดมา
ให้อ่านและเข้าใจได้ง่ายๆ ในรูปแบบภาษาไทย
ซึ่งก็เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับผม
ที่ไม่ถนัดกับการต้องไปหลังขดหลังแข็งกับการเปิดดิ๊ก
เพื่ออ่านจาก Manual ภาษาอังกฤษ
กับหลายสิ่งที่ยังไม่เคยรู้ หรืออยากรู้

ทุกเรื่องราวกระทั่งประวัติ
ความเป็นมา

วิธีผสม วิธีเพาะ วิธีเลี้ยง วิธีปลูก


ทุกสิ่งเกี่ยวกับ Bromeliad ถูกบรรจุอยู่ในเล่มนี้มีหมดครับ
เรียกว่ามีครบสูตร

โดยเฉพาะหน้านี้เราจะได้รู้ความหมายของศัพท์แสงต่างๆ
ที่คนในวงการเค้าใช้กัน อย่างความหมายของคำว่า sport
ที่ผมไปเจอในการขึ้นทะเบียนของเจ้า Zombie
ผมก็เปิดหาความหมายจากหน้านี่แหละครับ

ละเอียดถึงขนาดที่ว่าบอกที่มาของแต่ละสายพันธุ์
ลักษณะนิสัย ความเข้มของแสงที่ไม้ชอบ
ซึ่งเหมาะกับหน้าใหม่อย่างผม
ค่อนข้างมาก

เหมือนกับว่าได้ไฟฉายมาช่วยส่องทางในที่มืด
ไม่ซินะ น่าจะเป็นสป๊อตไลท์มากกว่า 555

อย่างหนึ่งในสุดยอด Dyckia เทพที่ราคาเหยียบแสน
ของเมื่อหลายปีก่อนผมก็มาอาศัยชื่นชมจากในหนังสือเล่มนี่แหละครับ
ไหนยังเจ้ากุ้งมังกรที่แสนจะหายากของหลายๆ ปีก่อนก็ได้มาอาศัย
ชื่นชมจากในเล่มนี้เช่นกัน เพราะราคาตามท้องตลาด
ตอนนั้นแพงมาก มือใหม่อย่างผมไม่กล้าจับหรอกครับ

อย่างหน้านี้ก็เช่นกัน เป็นหน้าที่ทำให้ผมได้รู้ว่า Aechmea มาจากภาษากรีก
ซึ่งแปลว่าหอก มิน่าล่ะแต่ละต้นถึงมีใบเป็นรูปทรงแหลมเปี้ยบ

แต่ถามว่าผมจบที่เล่มนี้เล่มเดียวไม๊

ตอบว่าไม่ครับ มีอีกหลายเล่มเหมือนกัน
หลักๆ ก็เอามาไว้ดูหน้าตาไม้แต่ละตัวที่ได้ยินชื่อมาครับ

จากแค่ไม่ถึง 10 ต้น

เดี๋ยวนี้ก็ร่วมร้อยละ


ยังไง
ผมก็ขอยกให้เล่มนี้เป็น



The Manual of Bromeliads

ของผมครับ

เคยอ่านกันรึยังครับ ?

ถ้ายัง 

ให้เคยซะ !

วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

The Nightmare of God ๆๆๆๆๆๆๆ

เห็นอะไรแปลกๆ ของชื่อกระทู้่ไหมครับ
ดูๆ ประหนึ่งจะเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตกกับวัฒนธรรมไทย
(หรือผมจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาษาไทยวิบัติต้องขออภัยเป็นอย่างสูงไม่ได้มีเจตนาครับ)

จริงๆ น่าจะใช้ชื่อเครื่องหมายอัศเจรีย์แบบนี้แทนหรือเปล่า The Nightmare of god !!!!!!
จริงๆ อยากจะตั้งชื่อกระทู้แบบไทยๆ ว่า

"ฝันร้ายของไม้เทพ"

พอดีไปเห็น Aechmea ไม้ตัวนี้เข้า
ต้องขออนุญาตคุณซอสส์ สวนคุณแม่(เพชรบุรี)
เจ้าของภาพยืมภาพมาใช้อ้างอิงหน่อยนะครับ
เห็นเขาเรียกกัน Aec. Zombie

จริงๆ เห็นภาพหน่อนี้มาก่อน ก่อนที่จะได้เห็นต้นแม่ข้างบน
บอกก็บอกนะ  ว่าแค่เห็นภาพหน่อ  มันก็มีความรู้สึกของความคุ้นเคย
ความรู้สึกอะไรเหรอครับ ก็รู้สึกว่ากำลังมองดู Aechmea chantinii เทพตัวหนึ่ง
ที่เขาเรียกกัน Aechmea Roberto Menescal
สงสัยว่าไม้ตัวนี้คงจะมีจิตวิญญาณไม้เทพแฝงอยู่อย่างแรงๆๆๆๆ
ผมถึงรู้สึกได้เพราะช่วงนี้เราใกล้ชิดกันมาก
ขนาดว่าซ่อนรูปออกเสียขนาดนี้ยังมีเค้าของตัวตน
เจ้า RBM แฝงอยู่ ขาดก็แต่ด่างแดงๆ เหลือง ๆ เขียวๆ

ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้ฟันธงเสียทีเดียวว่าเป็นเจ้า RBM (เรียกเลียนแบบพี่ otto ครับกระชับดี)
แต่เมื่อใดก็ตามที่เห็นไม้ตัวใหม่ๆ จะรู้สึกว่าต่อมความตื่นเต้นกระตุ้นอย่างแรง
แต่เสียดายแย่งกับเค้าไม่ทันเพราะโพสตอนผมเล่นเกมส์ซ่อนตาดำ
คลุมโปรงอยู่ในผ้าห่มอุ่นๆ แว้ว เห็นแย่งกันบอร์ดแทบแตก 555

กับสิ่งนึงที่มักจะขาดไม่ได้ของการได้พบปะไม้ใหม่
ก็คือ ถ้าเป็นไซด์หน่อคงรู้สึกเหมือนกันคือแล้วแม่ล่ะหน้าตาเป็นไง?
หรืออีกอย่างมันได้ขึ้นทะเบียนหรือยัง ?
ทำไงนะรึต้องค้นๆ ตามในเน็ตครับ

เป็นเหมือนกันไหมครับ ? 

ถ้าเจอก็จะมีอยู่ 2 แบบ
คือแบบที่ขึ้นทะเบียน กับ แบบที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน
ถ้าไม่ได้ขึ้นทะเบียนก็ต้องดูก่อนว่าเรียกกันติดปากจากหลายๆ ที่
หรือว่าเจ้าของอาจจะตั้งเอง ซึ่งก็คาดเดาได้ค่อนข้างยากในกรณีนี้

แต่ถ้าขึ้นทะเบียนก็จะมีภาพประกอบ อย่างตัวนี้ก็เหมือนกันเป็นไม้มีทะเบียนครับ
คิดตอนแรกคิดว่าจะไม่เจอ แต่ก็เจอแฮะ
มาสะดุดตรงประโยคนี้แหละครับ

Reverted sport of the variegate Ae. 'Roberto Menescal' 

ถึงได้สรุปได้ด้วยตัวเองว่าเกี่ยวกับเจ้า RBM จริงๆ ด้วย
แต่ติดตรงที่ตรงที่ผมเน้นสีแดงนั่นแหละครับ

แปลไม่ได้ ๆๆๆๆๆๆ 

สงสัยว่ามันคืออะไร กับศัพท์แสงพวกนี้เห็นแล้วบางทีก็เกิดความอยากรู้
ไม้เมล็ดที่เพาะได้ในรุ่นเดียวกันเมื่อก่อน เค้าก็เรียกว่าเป็น
ไม้ใน grex เดียวกัน แต่ sport of นี่ซิ อารายยยยยยๆๆๆๆ
หาใน google ตั้งนานเหมือนกันครับ แต่ไม่เจอ
สงสัย keyword ที่ผมใช้ค้นหาไม่ Make Sense 5555
ลืมไปว่าที่บ้านมี The Manual อยู่

ผมเลยไปค้นใน The Manual ของผม
เจอด้วยถึงว่าเหมือนคุ้นๆ
ว่าเคยอ่านเจอ

ผมขอบอกแบบนักวิชาการไว้เลยยยยว่าาา

Sport นี่คือการกลายพันธุ์ที่นิ่งแล้ว

ไงครับดูเหมือนว่าเป็นนักพฤกษศาสตร์เลยไหมครับ
(แฮ่ๆๆ จริงๆ จำขี้ปากพี่เขาจาก The Manual มาอีกที)
ไว้มีโอกาสเดี๋ยวผมเอา The Manual ของผมมาให้ดู
ว่าหน้าตาเป็นไง และจะแซ่บแค่ไหน

แต่ที่ว่ากลายพันธ์นิ่งแล้วนี่แสดงว่า
ไม่น่าที่จะกลับมาเป็นแบบเดิมได้อีกน้อ
คือยังไงน้องเค้าก็คงไม่สามารถกลับมา
ด่าง แดงๆ เหลืองๆ หรือไม่อาจกลับมาเป็นเทพ
บนสรวงสวรรค์ได้อีก

แต่สำหรับไม้ตัวนี้แล้วผมยอมรับเลยว่าคนนำมาขึ้นทะเบียน
เขาเข้าใจตั้งชื่อนะ กับไม้แบบเทพๆ
ถ้าดันได้หน่อออกมาในสภาพนี้
ก็ไม่ต่างอะไรกับ chantinii บ้านๆ ทั่วไป

God ---> Zombie

เหมือนจากสูงสุดจะคืนสู่สามัญยังไงไม่รู้

 สงสัยว่าตอนเจ้าของไปเจอกับหน่อไม้เทพที่มีอยู่
ออกมาในสภาพนี้แล้วเศร้า จึงคิดตั้งชื่อนี้ออกมา

แต่ก็เข้าใจสภาพอารมณ์เค้าอยู่หรอกนะ
ว่าอย่างถ้าวันหนึ่งเจ้า RBM ที่เรามีอยู่ดันออกมา
ในสภาพแบบนี้บ้าง
ก็คงดูไม่จืด
เหมือนกัน


แล้วอยากไม๊ล่ะ
มันก็กึ่งๆอยู่นะ
มันก็สวยอยู่
เล่นดำลายหินอ่อนซะขนาดนั้น

อิอิ...

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

ความคิดเดียวกันในใบเดียวกัน

ใบที่ 3 มันอยู่ที่ไหนเอ่ย ??

เมื่อนำแต่ละใบมาใส่ลำดับตามตำแหน่ง
ก่อนหลังที่เกิดขึ้นมาเอาเท่าที่พอได้นะครับ
แล้วตีลำดับตามการบิดของใบออกตามค่าองศาจาก 360
เอามาแบ่งเป็น 3 มุม
โจทย์ของผมก็ตีแตกได้แบบง่ายๆ 
หรือแบบมั่วๆ ของผมก็ไม่รู้นะ แต่มันก็ถูกจริงๆ ล่ะ
แสดงว่ามีสูตรอยู่ใช่ไหม หรือมั่วถูก 555

ถ้ายังจำของเก่าได้
หรือไม่ได้ก็ตาม Link นี่เลย 
http://dyckiaplayground.blogspot.com/2014/01/4.html

แบ่งลำดับของใบตามการบิดจนครบรอบที่ 360 องศา
จะได้ลำดับใบเป็น 4 กลุ่ม คือ
1, 2, 3
4, 5, 6
7, 8, 9
10, 11, 12

เอาให้ง่ายขึ้นเดี๋ยวทำเป็นภาพให้ดูครับ
ไล่จากใบรอบนอกสุดเข้าหาในสุดนะครับ
เพื่อความตื่นเต้นในการลุ้น

ใบที่ 10, 11,  12

ใบที่ 7, 8,  9


ใบที่ 4, 5,  6

ใบที่  1, 2 จาก 3 รูปด้านบนพอเดาได้หรือยังครับว่าใบที่ 3 น่าจะอยู่ในตำแหน่งไหน

แต่น แต่น แต้นๆๆๆๆ

I got it

ดูๆ ก็เหมือนกับว่าแค่ 3 ใบนี้ก็สามารถทำให้เจ้า Neo. ให้เป็นวงกลมได้
และทุกๆ 3 ใบก็หุ้มวนกันไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นไม้ใบสวยๆ หวานๆ ให้เราได้ชื่นชม
ซึ่งจริงๆ 2 ใบก็น่าจะได้ แต่ความแน่นและความมั่นคงอาจจะไม่มากพอหรือไง
(คิดแทนไม้อีกต่างหาก)

จริงๆ ก็มีคนคิดแบบผมด้วยแหละ เอ่อแน่ะ
หนึ่งในนั้นก็ท่านที่มาร่วมสนุกในกระทู้
หรือจริงๆ หลายๆ ท่านก็อาจคิดเหมือนๆ กัน
เห็นเขามีแต่พูดว่า "ใจเดียวกัน"

แต่ครั้งนี้คงต้องเรียกว่า 
"ความคิดเดียวกัน" 
เสียล่ะมั่ง แบบนี้

แต่ว่าก็ว่านะรูปที่ 2 ในกระทู้ก่อนก็ทำเอาผมหน้าแตก
แบบหมอไม่รับเย็บเหมือนกันนะ
น่าจะเตือนผมให้เร็วกว่านี้นะ
เหอๆๆๆๆ

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

ด่าง 4 มิติ (โจทย์ยากของลำดับเลขคณิต)

ถ้าจะพูดถึงเรื่อง 2 มิติ ก็ต้องมองกันที่ กว้าง กับ ยาว
หรือถ้าจะพูดถึงเรื่อง 3 มิติ ก็ไปดูที่ กว้าง, ยาว และ ลึก
แต่ถ้าจะพูดเรื่อง 4 มิติ ล่ะ

เอ่อนั่นสิ

4 มิติของผมก็นี่เลย กว้าง, ยาว, ลึก
ตัวสุดท้ายของผมมั่วไปที่ 'จินตนาการ' ครับ

เรื่องของเรื่องก็
พอดีไปเจอกับเจ้าตัวนี้เข้า
เสือด่างแปลกๆ ที่ได้มา
จริงๆ ก็ตั้งใจเอามาลุ้นนะตัวนี้ พอดีเห็นด่างแปลกๆ
เป็นเสื้อด่างที่มีส่วนเขียวเป็นเสี้ยว จะออกไปทางใบละเสี้ยว
จริงๆ กะคิดว่าถ้าเสี้ยวออกมาอย่างละครึ่งใบคงจะดูแปลกตาดี

บั้งออกสีอมชมพู ตอนตัดกับด่างขาวก็ดูสวยดี

ดูบ่อยเข้า บ่อยเข้า ความปราณีตในอารมณ์มันก็เกิด
และอารมณ์ศิลปินก็ตามมา แต่ไม่วาดนะ
เพราะไม่ถนัดในการแต่งแต้มสีสันบนผืนผ้าใบครับ

ชื่อจริงๆ แบบยาวๆ ของเจ้าตัวนี้

เลี้ยงๆ ไปเลี้ยงมาไม่เชื่อง ตอนนี้ใบด้านในสุดดันขาวเผือก
โดนด่างกลบซะเกือบมิด และเกิดเสี้ยวเขียวเส้นเล็กๆขึ้นแทนที่

ดีหน่อยที่ใบถัดไปเขียวใหญ่ขึ้นอีกหน่อย
ดูๆ ลักษณะของใบ เหมือนว่าความด่าง
ของแต่ละใบมีการปรับย้ายไปตามลำดับของชั้นใบ
ประหนึ่งว่ามีสูตรเหมือนลำดับในข้อสอบคณิตศาสตร์
ที่ต้องให้ไปคิดว่าเจ้าตัวแปรของเลขตัวถัดไปที่จะให้เติม
หรือว่าเจ้าตัวที่หายไปเป็นเลขอะไร เลยลองเอามาตัดต่อดูเล่นๆ ทีละใบ
จากทั้งหมด 12 ใบลองมาดูกันครับ ว่าจะได้อะไรบ้างหรือเปล่า

ลำดับตัวเลขแสดงชั้นใบนอกสุดเข้าไปหาชั้นใบในส่วนของยอด

ภาพรวม 12 ใบ

สำหรับผมตรงนี้ถือว่าเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างยากสำหรับผม
คำตอบที่ผมได้จากโจทย์ข้อนี้ผมได้แต่เพียงว่าถ้าดูจากลำดับเหมือน
เสี้ยวเขียวๆ มันจะค่อยหายไปเรื่อยๆ จริงๆ ถ้าหลังจากใบที่ 11 มันหายไปเลย
ก็น่าจะถือว่า "โดนด่างกิน" เป็นคำตอบของลำดับที่ดีสำหรับคนอ่อนคณิตศาสตร์อย่างผม
แต่ใบที่ 12 ดันโผล่มานี่ซิ แต่ถ้าใครเก่งคณิตศาสตร์กว่าผม
คงได้คำตอบอะไรดีๆ กว่านี้อีก

รูปนี้ผมของเอาเจ้า 12 ใบที่ผมเรียงไว้มาเติมตัวเลขลงไปด้วย
เผื่อจะได้อะไรที่เกี่ยวกับลำดับขึ้นมาอีกหน่อย
หรือจะเอาไปเชื่อมต่อกับภาพด้านบนได้บ้าง อุบ่ะ งานเข้า
ดูไปดูมาปรากฏว่าหายไปซะ 1 ใบ คือใบในลำดับที่ 3
ไอ้เราก็มาคิดว่าที่เอามาเรียง  มีการเรียงซ้ำเกิดขึ้นรึเปล่า
แต่ไล่ดูจากลายใบ ซึ่งไม่มีการซ้ำลายเกิดขึ้นเลยซักใบ
ก็พบว่าไม่ซ้ำนะ แต่นั่งๆ ดูไปก็บังเอิญได้อะไรสนุกๆ มาอีกหน่อย
ถ้าดูจากหมายเลขที่ติดไว้กับแต่ละใบผมมาร์คให้
ลองทายดูเลยว่า
เจ้าใบลำดับที่ 3 มันอยู่ตรงไหน
ถ้าอยากสนุก และชอบความท้าทายลองทายเล่นๆ ดูนะครับ
แล้วจะมาเฉลยในกระทู้หน้ากัน พร้อมทั้งวิธีคิดของผม

ซึ่งขอบอกไว้ก่อนเลยว่าวิธีคิดของผมมีหลักการนะ
เพราะตอนที่ใส่หมายเลขเห็นใบลำดับที่ 3 หายไปก็ออกจะแปลกใจอยู่เหมือนกัน
เลยลองไล่ลำดับแบบมีหลักการพอสมควร 555 แล้วจึงไปดูทีไม้ที่กระถาง
ปรากฏว่ามันอยู่ในตำแหน่งนี้จริงๆ และก็แปลกที่ดันถ่ายมาในมุมอับของ
ใบเจ้าปัญหานี้อีกต่างหาก


เสือด่างตัวนี้ได้มาเมื่อประมาณปีก่อนถ้าจำไม่ผิด
ซื้อแบบเอามาลุ้น ในราคาไม่แพง ไม่ถึงพันครับ
แต่ดูๆ จะลุ้นขึ้น ซึ่งเจ้าของเขาขายมาในราคาแบบเอาไปลุ้นเอากันเอง
จริงๆ ขายอยู่ 2 แต่ผมเอามาลุ้นซะ 1 เห็นตอนนี้ก็ยังเสียดายเลยที่เอามาแค่ตัวเดียว

ราคา ณ ตอนนี้ถ้าจะตัดใจขายผมว่าผมน่าจะโก่งราคาได้อีกเท่าตัว อิอิ
แต่ขอเลี้ยงเอาใหญ่ ดีกว่าเอาไว้เป็นตัวอวดอีกตัวประจำรังไม้
ดูๆ ก็เป็นเสือเขียวด่างตัวสวยอีกตัว
ลองมาตัดต่อเล่นดูทีละใบครับ

เหมือนเดิมครับ ลำดับ 1 คือใบนอกสุด

ภาพรวม 12 ใบ

ส่วนนี่คือใบที่ 13 จริงๆ น้องเค้ามีใบที่พอถ่ายได้อยู่ 13 ใบ
แต่พอดีใบด้านในเริ่มอวบอ้วนและผมไม่ได้บีบด้านกว้างของภาพ เลยเอามาโชว์แยก

ตัวนี้น่าจะเรียกว่าด่างดีน้อ
ถ้าดูแค่จากใบในลำดับที่ 1 - 6 จึงไม่น่าแปลกใจว่า
เจ้าของทำไมขายไม่ค่อยแพง จึงทำให้ผมได้ไม้ดีๆ มาไว้แบบสบายกระเป๋า
แต่ก็ค่อนข้างเสี่ยงอยู่เหมือนกันถ้าทุกใบเป็นแบบ  1 - 6 หมด
แต่ผมก็ฝันลมๆแล้งๆ นะว่าด่างด้านในจะกว้างออกเรื่อยๆ
ไว้เสือตัวนี้บิ๊กเบิ้มเมื่อไหร่เดี๋ยวไว้เอามาโชว์

ถ้าใครบ้าคิดจะตัดต่อแบบที่ผมทำ
มีข้อแนะนำนิดหน่อย ให้จับใบล่างสุด
แล้ววนทวนเข็มนาฬิกาไปหาใบถัดไปเรื่อยๆ
ท่านก็จะได้ลำดับใบนอกสุดไปจนถึงในสุด
ซึ่งในตอนแรกผมงงมากในการไล่ใบ เพิ่งมารู้ตัวอีกที
ตอนที่ถ่ายจะเสร็จละ ตอนแรกกะจะเอาสก็อตเทปมาแปะถ่ายทีละใบ กลัวซ้ำ


ว่าก็ว่า เสือด่างพวกนี้ราคาในท้องตลาดนี่ไม่ใช่ย่อยๆ
ด่างงามหาได้ไม่ยาก ถ้าสู้ราคาไหว ครั้นจะเอาด่างขี้นกมาเลี้ยง
ก็ต้องมาลุ้นเอา ลุ้นได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็สนุกดีไม่หยอก

แต่ตัวนี้ขอไม่ตัดต่อนะครับเพราะสำหรับผมคิดว่า
ลายและด่างมันเทพอยู่แล้วล่ะ

น้องเค้าชื่อยาวววววววววววววววววววววววว
ตัวนี้เรียกว่าตัดใจซื้อราคาตอนได้มาครึ่งหมื่นเอง (พูดจนประหนึ่งว่ารวยมาก)
แต่ตอนนี้ถ้าตัดใจขายสักหมื่นๆ จะมีใครบ้าจี้มาซื้อกับผมไม๊นี่
ราคาตอนนั้นเรียกว่าทำเอาผมแทบกระอักเหมือนกัน ตังค์ไม่มีสักก่ะบาท
แต่ก็ใช้น้องๆ หนามเข้าช่วย ได้มาก็สวยชื่นใจพอตัวอยู่
กะว่าพวกเสือด่างจะเก็บแค่ตัวนี้ตัวเดียวพอ
เพราะตอนเริ่มเล่นเห็นเค้านำเข้ามาก่อนเพื่อนเลยมั่ง
ในชื่อ "เสือแดงด่าง"
ซึ่งสำหรับผมเสือแดงด่างนี่แหละ
สวยอมตะล่ะ สีครบ ลายครบ บั้งเข้ม

ที่ว่าจะเก็บแค่ตัวเดียวน่ะจะทำได้รึ ? ไม่ได้หรอกครับ
จริงๆ ไม่ชอบเสือนะ อะไรที่ว่าไม่ชอบถ้าลองรับเข้ามาซะ 1 ดูๆ ไปทุกวัน
กิเลสมันจะเกิด และความชอบมันจะมาเอง แบบอัตโนมัติ
เหมือนโดนมนต์สะกดและมันจะตามกันมาเป็นพรวน
555
ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยกันมาเรื่อยๆ