วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

มันสมควรไม๊ ที่จะทำกันแบบนี้ ทำกันเกินไปหรือเปล่า

ลองดูครับว่าทำกันเกินไปหรือเปล่า อิอิ

Bill Paylen

Purple Red Silver

Zinfandel

ปกติ Dyckia เขาให้เน้นที่กระถางเล็กกว่าไม้เข้าไว้
เมื่อก่อนก็เห็นด้วยอยู่หรอกนะ แต่พรรคนี้รู้สึกว่ามันจะแน่นกระถางเกินไปหรือเปล่า
เห็นบางคนใส่กระถางใหญ่มันก็สวยไปอีกแบบ อาจทำให้ไม้หายใจได้คล่องขึ้นหรือปล่า

ต้องเลียนแบบ
จริงๆ ก็ทำมานานแล้วแหละครับ
เนื่องด้วยเหตุผลสองประการ
ประการแรกก็ที่ว่าสวยไปอีกแบบ 
ส่วนประการที่สองขี้เกียจต้องมาเปลี่ยนบ่อยๆ 555
อันนี้สำมะคัญ

ในระยะหลังๆ ได้ Dyckia Hybrid มามีความรู้สึกแปลกใจอยู่อย่างนึงครับ
มีความรู้สึกเหมือนว่าโครงสร้างไม้จะเล็กลงเรื่อยๆ เหมือนจะออกแนว dwarf ไปเสียหมด
ซึ่งจริงๆ อยากจะเลี้ยงให้ได้ใหญ่ๆ มากกว่า บางต้นยังเล็กก็ดันแก่แดดแก่ลม
ออกหน่อรอบคอแม่  ดันกันแล้วก็ดันกันอีก จนแม่เสียทรง
มิหนำซ้ำแม่ยังเล็กก็มาดันแยกยอด รึจะเป็นเพราะสภาวะแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนไป

เมื่อก่อนเคยมีปัญหากับการเปลี่ยนกระถาง Dyckia อยู่นิดหน่อย

สังเกตจากก้นกระถาง จะเห็นว่ามีรูที่ค่อนข้างใหญ่อยู่พอสมควร พอรดน้ำปุ๊บ
ดินก็ไหลออกตามรู พร่องไปเรื่อยๆ จนในที่สุดจะเหลือแต่ไม้กับราก และก็กระถาง
เมื่อก่อนใช้เทคนิคอยู่ 2 อย่าง
อย่างแรกก็ใช้หินภูเขาไฟเบอร์ใหญ่หน่อย หรือถ่านทุบรองก้นกระถาง หรือไม่ก็อิฐทุบ
แล้วตามด้วยดิน แต่ครันจะใช้อิฐกระถางก็จะหนัก หรือจะใช้หินฟูเขาไฟกับถ่าน
บางทีก็หายากนะ และหินภูเขาไฟก็ค่อนข้างแพง
อย่างที่สองใช้กาบมะพร้าวสับรองก้นกระถางก่อนซึ่งค่อนข้างจะหาง่าย
แล้วตามด้วยดิน ซึ่งอย่างที่สองค่อนข้างทำให้ดินแฉะและอุ้มน้ำพอสมควร
เห็นไหมครับว่าแค่
วัสดุรองก้นกระถางก็ทำให้ผมเครียด!!! ได้

มีอยู่ครั้งหนึ่งได้ซื้อไม้จากพี่ป้อง พี่เขาก็ส่งมาพร้อมกระถางเลย เราก็เอาละ
แอบดูวัสดุปลูกของพี่เค้าดูหน่อย ก็พบว่าก้นกระถางมีวัสดุบางอย่างรองอยู่
ไอ้เราก็เออะ What is this. ส่องไปส่องมาก็ถึงกับกระแดะออกมาซะ "ยูเรก้า"
มันคือแผ่นพลาสติกตาถี่สีดำ ซึ่งจริงๆ มันก็มีอยู่ตามร้านโชว์ห่วยในตลาดบ้านผมเสียด้วย
ซึ่งแถวบ้านผมส่วนใหญ่จะซื้อไปปิดตามเล้าไก่ หรือไม่ก็เอาไปล้อมปลูกผัก  

วิธีการก็ง่ายมาก ตอนซื้อมาจะได้แผ่นใหญ่ๆ เมตรละไม่กี่สิบบาท เราก็เอาก้นกระถางมาทาบ
แล้วก็ตัดออกมาเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม (ซึ่งผมก็ไม่ได้ขยันขนาดที่ว่าจะตัดเป็นวงกลม
ตามรูปทรงของกระถาง)

แล้วก็รองไปที่ก้นกระถางก่อนที่จะเติมดินลงไป  
ซึ่งถ้าจะถามว่ารองก้นกระถางด้วยอะไรที่เบาๆ พรุนๆ หน่อยไม่ดีกว่ารึ
ก็อาจจะดีนะ แต่ผมไม่ชอบอ่ะ 555

ที่ไม่ชอบก็เพราะเวลาที่ต้องเปลี่ยนกระถางมันจะสามารถถอดกระถางเป็นทรงออกมาได้เลย
แต่ถ้ามีอะไรพรุนๆ รองกระถาง ก้นกระถางจะยุ่ยๆ เหตุผลแค่เนี้ยครับสำหรับผม
ดูซิ รากแน่นเชียว สมควรเปลี่ยนมะ แอบเห็นมีเพลี้ยงแป้งติดด้วย เดี๋ยวเจอกัน

สังเกตดูรอบๆ ไม้ที่ถอดกระถาง มีหญ้าประดับซึ่งตอนนี้ผมไม่ต้องการ
และหินภูเขาไฟที่โรยไว้รอบโคนต้นตอนนี้จะชิดและดันติดโคนใบด้านล่าง
ซึ่งจะต้องโดนคุ้ยๆ เขี่ยออก  เพื่ออะไรเดี๋ยวรู้กันครับ

พรรคหลังๆ ผมไม่ค่อยคุ้นชินกับการใช้มือเปล่าแบบดิบๆ เถื่อนเหมือนเคย
จะอาศัยถุงมือยางเข้าช่วย เพราะดูๆ จะมีเสี้ยนหนามติดตามหนังมือพอสมควร
และที่จะขาดเสียไม่ได้ ใบแห้งๆ ที่ติดโคนหนามถ้าแห้งจริงๆ จะกระตุกเบาๆ เพื่อให้หลุดออกมา
ส่วนที่ยังไม่แห้งก็จะถูกตัดเล็มเฉพาะส่วนที่แห้งออก
เพื่อจะได้กลบดินและโรยหินได้สะดวกขึ้น ไม่มาเกาะกะมือ
และอีกอย่างเห็นเขาว่ากันว่าสะสมโรค บางก็ว่าเป็นกลยุทธของไม้ในการลดการสูญเสียความชื่น
แต่ผมว่าไม้เราเลี้ยงอย่างถนุถนอมอยู่แล้ว รดน้ำบ่อยๆ ไม่เหมือนในธรรมชาติ สมควรตาย
เอ๊ยๆๆๆ สมควรเอาออก

นี่แหละครับสาเหตุที่ผมต้องคุ้ยดินและหินที่อยู่รอบๆ โคนต้นออก
เพราะผมจะวางส่วนของดินทั้งๆ ดุ้นโดยไม่แคะออกให้สูงกว่าระดับขอบกระถาง 
เผื่อไว้ไม่ให้ปลายใบจมในวัสดุปลูกครับและจะไม่ใส่ดินจนเต็ม 
เผื่อโรยหินด้านบนกันดินกระฉอกเวลาที่ต้องมีสายน้ำโพยพุ่งแบบปรอยๆ จากสายยาง
เพื่อโรยริน รดให้ความชุ่มชื้นกับบรรดาน้องๆ หนามของเรา (จริงๆ แค่บอกว่ารดน้ำก็น่าจะจบ)

และก็ไม่ลืมวางกะตำแหน่งให้สมมาตร โยกไปโยกมาซะหน่อย

ก่อนจะเติมดินเพิ่ม และโรยด้วยหินปิดท้าย


สูตรดินของผมน่ะรึ ก็ใช้ดินที่เขาขายเป็นถุง หรือเป็นกระสอบแหละครับ
ถ้าได้เป็นดินผสมใบก้ามปูก็ดีหน่อย ส่วนดินที่ผสมแกลบเยอะผมไม่ค่อยชอบนะ
เพราะคิดว่าที่ผสมแกลบทำให้ดินแห้งเกินไป แบบว่าขี้เกียจรดน้ำบ่อยๆ ครับ
ผสมกับหินภูเขาไฟเบอร์ 1 ซึ่งเบอร์ 0 ผมว่ามันเล็กไปนะ
แต่หลายคนคงชอบ แต่ผมว่ามันใช้ได้ทั้งผสมและโรยปิดหน้าดิน
ซึ่งถ้าช่วงไหนมีตังค์หน่อยก็ซื้อมาเป็นกระสอบ
และกระหน่ำผสมในดินแบบซัมเมอร์เซล
ไม่มีส่วนผสมอันชัดเจน เอาดินไม่แฉะว่า
แต่ถ้าช่วงเบี้ยน้อยหอยน้อย ก็สามถุงร้อย
ซึ่งถ้าช่วงไหนไม่มีหินจริงๆ ผมก็ไม่ยอมปลูกหรือเปลี่ยนกระถางเลยนะ
ข้อดีอีกอย่างของการผสมดินกับหินภูเขาไฟ เวลาเราจะเปลี่ยนกระถางก็แค่
ดันผ่านรูก้นกระถาง และดินก็จะหลุดมาเป็นก้อนตามรูปทรงกระถางด้านบนนั่นแหละครับ
รากของ dyckia จะเกาะกับหินและยึดดินไว้จนเป็นทรงตามกระถางสามารถทำให้ถอดกระถาง
ได้แบบง่ายๆ แต่ต้องเป็นกระถางพลาสติกด้วยนะครับ ถ้าเป็นกระถางดินเหมือนจะยากอยู่


และก็ปิดท้ายด้วยการโรยผงม่วงกับเม็ดสีเหลืองๆ เสียหน่อย
เพื่อความอิ่มอร่อยของเพลี้ยแป้งกับ Dyckia อะอะอ่ะ
ผมไม่ได้ทำเกินไปใช่ไหม ที่จะใช้กระถางใหญ่กว่าไม้อ่ะ
ว่ามะ.....เค้าไม่ผิดดดๆๆๆ
ดูซิสง่างามออก!!!!




4 ความคิดเห็น:

  1. ขออนุญาติลอกครับ อย่างน้อยก็แผ่นปิดก้นกระถาง แหล่มครับ
    ส่วนอย่างอื่นต้องดูยุทธปัจจัยก่อนเชนกันครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อีกอย่างเปิดหัวกระทู้ซะ ต้องกดเข้ามาดูเลย อิอิไทยมุงในสายเลือด

      ลบ
    2. ผมว่าข้อดีของการใช้กระถางใหญ่ก็คือรดน้ำง่ายครับ Dyckia ที่บ้านปลูกกระถางเล็กพอต้นโตจนคลุมกระถางเวลารดน้ำแล้วไม่ค่อยลงดินครับโดนใบบังกระเด็นออกหมด ต้องคอยตะแคงฝักบัวฉีดเข้าด้านข้างแต่ก็ได้น้ำไม่เต็มที่ กระถางใหญ่รดทีเดียวอยู่ได้หลายวันเลยครับ เสียอย่างเดียวคือกินพื้นที่ครับ

      ลบ
  2. จุลินทรีย์ไมคอไรซามีประโยชน์ต่อรากพืช ช่วยป้องกันจุลินทรีย์ไม่ดีและช่วยย่อยธาตุอาหารในดินให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดียิ่งขึ้น

    ตอบลบ